การศึกษาด้านสังคมวิทยาเกี่ยวกับความสำเร็จของชาวยิว (โดยพื้นฐานแล้วชาวยิวเน้นที่การศึกษาและหนังสือเพราะพวกเขารู้มานานแล้วว่าอำนาจที่แท้จริงคือความรู้ที่พกพาได้ ซึ่งเป็นผลมาจากประวัติศาสตร์ของการข่มเหงในฐานะกลุ่มชนกลุ่มน้อยในดินแดนต่างแดนที่ถูกห้ามไม่ให้เป็นเจ้าของที่ดิน ดังนั้น แทนที่จะเป็นชาวนา ชาวยิวจึงกลายเป็นช่างฝีมือและศิลปิน พ่อค้า ฯลฯ พวกเขายังเรียนรู้ว่าสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์) ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใดๆ ที่รออยู่ข้างหน้าด้วยการมีอำนาจ และอำนาจคืออะไร? ความมั่งคั่งคืออำนาจ และอะไรสร้างความมั่งคั่ง? ความรู้ ซิลบิเกอร์ยังอธิบายด้วยว่าประวัติศาสตร์อันยาวนานของการข่มเหงยังสร้างกรอบการทำงานเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วย) -- คู่มือการศึกษาสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ในตัวลูกๆ (เช่น สอนให้พวกเขามั่นใจในคำพูดโดยสนับสนุนให้พวกเขาถามคำถามและท้าทายอำนาจ เช่นเดียวกับที่ชาวยิวทำเมื่อศึกษาคัมภีร์ทัลมุด ให้ลูกของคุณมีความคิดสร้างสรรค์และมั่นใจโดยไม่ต้อง ทำให้พวกเขาดูถูก ปล่อยให้พวกเขาทำตามความฝันของตนเอง ปล่อยให้พวกเขาเสี่ยง นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมจึงมีผู้ประกอบการชาวยิวจำนวนมากอยู่ในรายชื่อ 400 อันดับแรกของ Forbes) -- การวิเคราะห์ทางจิตวิทยาเกี่ยวกับลักษณะนิสัยและบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จ. และรายการยังดำเนินต่อไป (เช่น ความจำเป็นในการพิสูจน์ตัวเอง การคิดอย่างสร้างสรรค์และวิพากษ์วิจารณ์ การก้าวร้าว การประหยัดเงินแต่ยังใจกว้างเมื่อนับว่าเป็นการกุศลหรือการระดมทุนให้กับขบวนการสิทธิพลเมืองในช่วงทศวรรษ 1960)